เผยแพร่งานวิจัยปี2557
ชื่อเรื่อง ผลการฝึกทักษะวอลเลย์บอลด้วยความถี่ต่างกันที่ส่งผลต่อความสามารถในการเล่นกีฬาวอลเลย์บอลของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 1
ผู้วิจัย นายพูนศักดิ์ ดีมาก
ปีที่วิจัย 2557
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาผลการฝึกทักษะวอลเลย์บอลด้วยความถี่ที่บ่อยครั้งที่ส่งผลต่อความสามารถในการเล่นกีฬาวอลเลย์บอลของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 1 และ 2) เพื่อเปรียบเทียบการฝึกทักษะวอลเลย์บอลด้วยความถี่ต่างกันที่ส่งผลต่อความสามารถในการเล่นกีฬาวอลเลย์บอลของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 1
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักศึกษาระดับชั้น ปวช.1 สาขางานอาหารและโภชนาการ , สาขางานคอมพิวเตอร์กราฟิก และสาขางานคอมพิวเตอร์ธุรกิจ รวมทั้งสิ้น 130 คน โดยผู้วิจัยเลือกใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง และได้กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนระดับชั้น ปวช. 1 สาขางานคอมพิวเตอร์กราฟิก จำนวน 30คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบทดสอบทักษะกีฬาวอลเลย์บอลของเฉลิมชัย บุญรักษ์ ซึ่งผู้วิจัยได้นำมาปรับปรุงให้เหมาะสมกับนักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างด้วยตนเอง สำหรับข้อมูลที่ได้นำมาทำการวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางคอมพิวเตอร์ ในการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสถิติ t-test
ผลการวิจัยพบว่า
ผลการฝึกทักษะวอลเลย์บอลด้วยความถี่ที่บ่อยครั้ง โดยการฝึก 3 ครั้งต่อสัปดาห์ของกลุ่มทดลองที่ 2 มีค่าเฉลี่ยของคะแนนรวมทักษะก่อนการเรียน เท่ากับ 47.80 และหลังเรียนเท่ากับ 69.00 มีค่าความแตกต่าง เท่ากับ 21.20 แสดงว่าผลการฝึกทักษะวอลเลย์บอลของกลุ่มทดลองที่ 2 มีค่าเฉลี่ยของคะแนนรวมทักษะหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเมื่อเปรียบเทียบผลการฝึกทักษะวอลเลย์บอลด้วยความถี่ที่ต่างกันของกลุ่มทดลองที่ 1 และกลุ่มทดลองที่ 2 พบว่า ผลการฝึกมีค่าเฉลี่ยของคะแนนรวมทักษะหลังเรียนของกลุ่มทดลองที่ 1 เท่ากับ 53.73 และผลการฝึกของกลุ่มทดลองที่ 2 เท่ากับ 69.00 ซึ่งมีค่าความแตกต่างเท่ากับ 15.27 แสดงว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนรวมทักษะหลังเรียนของของกลุ่มทดลองที่ 2 สูงกว่ากลุ่มทดลองที่ 1 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05